God Mother เปิดฝาโลงสตรีถือหอก หลอกตกเบ็ดพระโดยเจ้าคุณเบอร์ลิน ! : กรณีธรรมกาย

God Mother in Thai Buddhist Temple


สรรพนาม "มัน" ทุกคำ กับสมเด็จช่วง

เผยความสกปรกโสมมในคราบ

สตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่

อำนาจที่เกาะกินผลประโยชน์

จากตำแหน่ง สมเด็จพระสังฆราชไทย

โดยไม่สิ้นสุด!


รายงานตัวครับผม
บทความนี้ เป็นหนึ่งใน
"ยุทธการปิดฝาโลงห้องกระจก" ครับ!
ในโพสต์นี้ ผมจะขออนุญาต
แยกออกเป็น 5 ตอนนะครับ..


มีข้อแนะนำในการอ่านโพสต์ครั้งนี้
ด้วยความเคารพว่า..

1. ให้รีบอ่าน ด้วยปัญญาพิเคราะห์
และช่วยแชร์ต่อ หรือเซฟไว้ทันที

2. สะกิดบอกให้คนในวงการศาสนาใกล้ตัว
ให้เข้ามาอ่านกันให้มากที่สุด เพื่อเสริมภูมิตน

เมื่อท่านดำเนินการตามที่ผมขออนุญาต
แนะนำไว้ทั้ง 2 ข้อข้างต้นนี้แล้ว
ผมรับรองว่า ท่านจะได้รับสารประโยชน์สูงสุด
ชนิดที่คิดว่า

"ชั่วชีวิตนี้จะมีใครกล้า
นำมาเปิดเผย ให้เราได้ทราบอีกหรือไม่ "

เพราะนี้คือ ข้อเท็จจริงล้วนๆ
ขอแจ้งว่า หากท่านผู้อ่านนำไปเผยแพร่
แชร์ต่อ ท่านจะไม่มีความผิดฐานหมิ่นใดๆ ทั้งสิ้นครับ
เพราะผมได้ขัดเกราสำนวนอย่างดีที่สุด
เช่น จะไม่การเอ่ยนามบุคคล
หรือพูดไปกระทบกับความมั่นคง
ของชาติขึ้นมาใดๆ ทั้งสิ้น

    ตอนที่ 1  

    แจกแจง แยกแยะ   


ผมจะใช้ยุทธวิธี "เล่าเหตุการณ์"
นำคำพูด นำแนวคิด นำพฤติกรรม
เปิดเผยตัวละคร เผยแผนการณ์

ของแก๊งค์คนชั่ว ที่จิตใจชั่วหยาบสุดจะพรรณนา
ที่หลบใน..คอยเกาะกิน แสวงหาผลประโยชน์
กับศรัทธาของคน ออกมาตีแผ่แจ้งให้สังคม
ได้ทราบอย่างละเอียดยิบไปเลย

แต่เมื่อท่านเข้ามาอ่านโพสต์นี้แล้ว ขอเพียง
วิเคราะห์ต่อยอด ต่อจิ๊กซอสืบต่อเนื่องแบบง่ายๆ แล้ว
ผมรับรองว่าทุกท่านจะเห็น...

"สตรีถือหอก คนชั่ว"

ว่า "มัน" ได้มายืนตรงหน้าทุกท่านอย่างชัดแจ้งแล้ว
เมื่อนั้น ท่านจะสิ้นความสงสัย
เรื่อง"สตรีถือหอก" บุคคลลึกลับนี้โดยทันที

คำพูดจากอเวจีนรก

ก่อนจะไปเรื่องอื่น ผมชื่อ จ้าคุณเบอร์ลิน
จะขอกลั้นลมหายใจพูดว่า ...
ประโยคที่ผมจะนำมาเผยเหล่านี้
ผมได้ยินแล้วคิดในใจว่า..
ต่อให้มนุษย์ที่ชั่วที่สุดในโลกใบนี้
ก็คงไม่สามารถกล่าวออกมาได้
นอกจาก

"สัตว์ในอเวจีนรกเท่านั้น
จึงสำรอกออกมาได้ถึงขนาดนี้"

มันโคตรชั่วยังไง? มาแจ้งกันซะในวันนี้ครับ
ขอบอกว่า ไอ้คนที่ได้ยศสูงๆ มีวาสนาสูงๆ
ที่คนทั้งหลาย ต่างพากันไปหลงเชื่อมันว่า
"เป็นคนดีถือเคร่งยิ่งกว่าพระ
หรือศรัทธาแต่ธรรมยุต" นี้นั้น
แท้ที่จริงแล้ว พวกมันก็คือล้วนสมคบ
เข้าพวกในแก๊งค์ชั่วช้าสามานย์นั่นเอง
มันชั่วขนาดไหน ยังไง มาดูกันครับ...

   ประโยคที่ 1  

เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นในขณะที่มีการประชุม
เพื่อเตรียมการจัดงานถวายพระเพลิง
พระศพอดีตสมเด็จพระสังฆราช
และเกิดขึ้นต่อหน้าธารกำนัล เสียด้วย!
คราวนั้น..สตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่
ได้แสดงอารมณ์เกี้ยวกราดใส่
บิ๊กสำนักพุทธ ฯ ว่า....

"ถ้าอยากอยู่ในตำแหน่งไปจนสิ้นอายุราชการ
ก็อย่ายุ่งกับเงิน 23 ล้าน"


   ประโยคที่ 2  

ประโยคคำพูดนี้..
มีแต่สัตว์ที่หนีนรกมาเกิดเท่านั้น จึงพูดออกมาได้
(ขออภัยที่พูดคำหยาบ)
เพราะมันเกินกลั้นครับ!
เธอผู้ชั่วช้าได้กล่าวออกมาว่า..

ถ้า "มัน" อยากเป็นพระสังฆราช
ก็ให้ไปจัดการจับธัมมชโยสึกให้ได้ก่อน
จะได้เห็นว่า ไม่หย่อนยานสมรรถภาพ

ถ้าจัดการธัมมชโยไม่ได้ !

ก็ให้ "มัน" เป็นได้แค่
"ตาช่วง" ไปจนตาย
สมควรจัดให้มันอยู่ที่ไหนดีครับ
คนชั่วสุดประเภทนี้

   ประโยคที่ 3  

คนหนีนรกมาเกิด จิตใจต่ำยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน
ได้สำรอกคำออกมาต่อไปอีกว่า..
หากเอา "มัน"

ติดคุกตอนแก่ด้วยเรื่องรถ ไม่ได้ !
ก็ให้เอาเรื่องพระลิขิต

เอาเรื่องพระลิขิต ไม่ได้..
ก็ให้เอาเรื่องหมิ่นหลอก
เสนอเลื่อนสมณศักดิ์ให้ "ธัมมชโย"

และหากเอาเรื่องหมิ่นหลอกเสนอ
เลื่อนสมณศักดิ์ ไม่ได้
ก็ให้มันติดคุกตอนแก่
เพราะยักยอกเงินพระสังฆราช"

เป็นไงครับ?

ลำดับแผนชั่วของแก๊งค์นรกนี้
ใครว่าผมเรียงลำดับผิด
หรือพูดผิดก็แย้งมาได้เลยครับ.!

   ประโยคที่ 4   

สัตว์หนีนรกมาเกิดคนนี้
ได้เปล่งประโยคที่อาจเข้าข่าย
หมิ่นพระบรมเดชานุภาพต่อไปว่า
ขอถามก่อนว่า ...

สตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่คนใด..ละครับ
ที่ได้ประกาศ ต่อหน้าเจ้าหน้าที่
ข้าราชการต่างกรรมต่างวาระ ว่า..

"วัดพระรามเก้า
ไม่ใช่วัดประจำรัชกาล
แค่เป็นวัดทรงดำริสร้าง
ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจำไว้
จะได้ไม่สอนกันผิด"

รู้คำพูด สืบหาผู้กล่าว คนนั้นก็คือ

"สตรีผู้ถือหอกแทงสงฆ์"

งวดนี้ ผมขอนำมาประจาน
ความเลวของสัตว์ผู้หนีนรกมาเกิด
เพียงแค่นี้ก่อนนะครับ.
ซึ่งเพียงแค่นี้เท่านี้แหละครับ!

ผมคิดว่า...

คนไทยครึ่งค่อนประเทศ
โดยเฉพาะคนในวงการศาสนา
ไม่มีใคร ไม่รู้ว่า "หล่อน" คนนี้ว่าเป็นใคร..?

ยิ่งถ้านำไปเปรียบเทียบกับพฤติกรรม
"หลอก และล่อ" วัดหลวงใหญ่ ๆ
เพื่อรับเป็น "พระลูกชาย ของฉัน"
ในการทำทีใส่เหยื่อตกเบ็ดล่อ
ด้วยการเสนอโครงการซ่อมวัดหลวงใหญ่ๆ
ด้วยให้เงินน้อยนิดที่เหลือใช้เงินวัด
โดยบริษัทตัวเองจัดจ้าง
กัดกินสารพัด ทั้งอิฐหินดินทราย
กระเบื้องมุงหลังคาโบสถ์ วิหาร
ศาลาการเปรียญ
ดังที่ผมเคยจารนัยมาแล้ว

เขาพูดกันในวงพระศาสนาว่า
"หลอกใส่เหยื่อตกเบ็ดพระ"
รู้บ้างไหม ลืมหรือยังคำ ๆ นี้
ถึงตรงนี้ "ก็แจ้งชัดสามโลก" ครับ

แล้วก็คงได้สิ้นสงสัยกันสักทีนะครับ
กับสตรีผู้ถือหอกทิ่มแทงพระ
อยู่ในขณะนี้ ว่าเธอเป็นใคร?
เพียงแค่ผมนำประโยคเด็ดๆ
ของคำพูดเหล่านี้ มาเผยแพร่
"พวกมัน" ก็เต้นเป็นเจ้าเข้าแล้วครับ
และคงแทบ "ตายกันทั้งเป็น" แล้วละครับงานนี้ฃ

ซึ่งผมคิดว่า..

ต่อไปนี้ ผู้คนในสังคมไทยก็จะสืบสาวว่า
มันผู้ใด? ..กล่าวประโยคนี้ออกมา
เจอใครเป็นคนกล่าว ก็คนๆ นั่นนะแหละคือ
"สตรีผู้ถือหอกผู้ยอดชั่วรายนี้"

ที่สำคัญเมื่อเจ้าตัวทราบว่า
มีคนเผยแพร่คำพูดตนถึงขนาดนี้ละก็
เธอก็จะรู้ตัวเองในทันที และอุทานว่า ..

"ประตูคุกใกล้พวก ฉันเข้ามาแล้ว
ไอ้เจ้าคุณเบอร์ลินมันเป็นใครกันแน่ (วะ!)
มันมารู้เรื่องคำพูดเหล่านี้ได้อย่างไร"
ทีนี้พวกแก๊งค์ ก็มีแต่ตายกับตาย
เป็นการทั้งเป็น เลยแหละครับงานนี้

    ตอนที่ 2     

    เงินอุดหนุนสังฆราช 300 ล้าน   


เข้าเรื่อง
เชิญเข้ามาทราบรายละเอียดตามลำดับกันครับ
โพสต์นี้เอาให้ชัดๆ กันไปเลยนะครับ
ผมขอเปิดยุทธการ
"ปิดฝาโลง แก๊งค์ชั่ว" นะครับ
เอาให้ "พวกมัน" ไม่ได้ผุดได้เกิดกันไปเลย

เงินอุดหนุนสังฆราช
ปีละ 23 ล้าน รวม 300 ล้าน
อันที่จริง เรื่องนี้ว่าไปแล้ว ก็แทบจะ
ไม่มีใครเคยรู้เลยว่า
มีเงินอุดหนุนการปฏิบัติศาสนกิจ
ของสมเด็จพระสังฆราชอยู่ด้วย
หรือถึงรู้ ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีใครสนใจ
ที่จะมาตั้งคำถามถึงเงินพระสังฆราช
เป็นรายปีๆ ละ 23 ล้านนี้

เนื่องเพราะทุกคนเห็นว่าเงินดังกล่าวนี้
ถ้ามีจริง..
ก็เป็นเรื่องเหมาะสมแล้ว เพราะมีความจำเป็น
ต่อศาสนกิจในหน้าที่ ของสมเด็จพระสังฆราช
สิ่งที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดนั้น
ก็ด้วยความศรัทธาที่ มีต่อสมเด็จพระสังฆราช
พุทธบริษัททั้งหลาย ต่างก็เชื่อมั่นในพระองค์ท่าน
จึงไม่มีใครเคยมีคำถามต่อ เงินหลวง
ที่รัฐบาลได้จัดถวาย เพื่อศาสนกิจ
ของสมเด็จพระสังฆราช


พุทธอิสระ ..

มีพฤติกรรมทำสิ่งที่ตรงข้ามกับคำพูดตนเอง
ทั้งหมดเสมอ นั่นคือเหตุผลที่ว่า ..
ทำไม?
ตลอดระยะเวลาที่ สมเด็จญาณสังวร
ดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช นั้น
จึงไม่เคยมีใครตั้งข้อสงสัย
ในเงินจำนวนดังกล่าวว่า

ทรงใช้ในศาสนกิจอันใดไปบ้าง?

แต่พลันที่พุทธอิสระได้สติแตก
เดินทางไปยื่น สตง. เพื่อให้ตรวจสอบ
เงินสมเด็จพระสังฆราช
หลังสิ้นพระชนม์เท่านั้น
ซึ่งดำเนินการทั้งที่ปากพร่ำว่า

"รักษาพระเกียรติๆ ไม่ขาดปาก"

การทำของพุทธอิสระ ในครั้งนี้
ได้สร้างความมึนงง สงสัย คลางแคลงใจ
ให้เกิดขึ้น ต่อสังคมไทยพุทธนับแต่นั้น

จากนั้น ตัวเลขเงินมหาศาลร่วม 300 ล้าน
ก็ปรากฎต่อสาธารณะ และปรากฎ
เนื่องเพราะคำถามที่พุทธอิสระ
ที่นำหอบเอาไปโยนใส่ผู้ว่าการ สตง.
ทั้งยังเป็นคำถามที่มากด้วยความแหลมคม

"มีทั้งบังคับ มีทั้งข่มขู่กลายๆ"
ประหนึ่งเจตนาพุ่งปลายหอกเข้าหา
สมเด็จวัดปากน้ำ อย่างอำมหิตยังงั้น
โดยกะจะให้เบ็ดเสร็จตามเจตนา
ของคนที่พุ่งมาให้ทีเดียว.!

แต่ครั้งนี้ มันกลับก่อคำถามมากมายขึ้น
ในสังคมไทย อย่างต่อเนื่อง
คำถามของของผู้คนที่มีจิตใจรักความถูกต้อง
ของผู้ที่มีความเป็นธรรม แบบกระแสตีสวนกลับ
จึงเป็นคำถามที่ เปรียบเหมือนปลายหอก
ที่หันกลับ แล้วพุ่งกลับคืนไปยัง
ต้นทางที่มาเสียเองฉะนั้น..

แล้วใครเป็นผู้ใช้เงินร่วม 300 ล้าน

ขณะพระสังฆราชอาพาธ

ไม่ทรงรู้สึกตัว?


คำถามนี้นับว่าคำถามที่ พุทธอิสระ
ได้ทะเล่อทะล่าสะเออะเดิน
ไปถามถึงที่มาที่ไปของเงินพระสังฆราชนั้น
จึงเรียกว่า "สุดแหลมคมยิ่งนัก"

แหลมคม แบบโง่แล้วดันขยัน
ทำให้ก้าวพลาดอย่างจัง
แบบอาจล้มทั้งกระดานให้ได้

ก็เนื่องเพราะการณีนี้
กลายกลับปรากฎว่า มันได้กรีดลงไปยัง
สุดขั้วหัวใจของสตรีผู้ทรงอิทธิพลผู้หนึ่ง
ผู้ซึ่งถือว่าเป็นกุญแจสำคัญ
ในการเปิดเผยถึงที่มา..ที่ไป..
ของเงินร่วม 300 ล้าน ของพระสังฆราชเสียเอง
อย่างน่าเขกหัวพวกกันเอง
ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้พุทธอิสระไปไม่เป็น
ถึงกลับต้อง"นิ่ง" ถึงทุกวันนี้

การณ์กลับตาลปัดดังกล่าวนี้
"ขบวนการชั่ว แทบไม่มีใครคาดถึง"
ถึงขนาดมีแนวคิด ที่จะต้องปรับแผน
เปลี่ยนคนครั้งใหญ่เลยที่เดียว

หากพิเคราะห์ตามนี้..

คนที่รู้ว่าตำแหน่งพระสังฆราช
มีเงินอุดหนุน จำนวนถึง 23 ล้านบาทต่อปีนั้น
จะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น..
ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ใครๆ ก็มิอาจปฏิเสธได้
และเงินจำนวนนี้ใครจะเอาไปใช้ไม่ได้
นอกจากสมเด็จพระสังฆราชเท่านั้น!
 แม้แต่สิทธิอำนาจในการเบิกจ่าย
เพื่อนำเงินออกมาด้วย
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วพุทธอิสระ
ไปล่วงรู้ข้อมูลนี้มาจากไหน?

นี่คือคำถามที่สังคม..

ต้องช่วยกันหาคำตอบ?

ค้นหาผู้สมรู้ร่วมคิดแผนชั่ว
เพื่อโค่น สมเด็จช่วงจากคนไม่กี่คนนี้ดังนี้

   ข้อที่ 1   

ในคนเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ คือตัวแทนกรรมการ มส.
นั้นคือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เข้าไปร่วม
ในการพิจารณาการจัดสรรงบประมาณ
ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
ใครที่เป็นกรรมการ มส. ในกรรมการชุดนั้น?

ก็เท่ากับว่า "ท่าน" ผู้นั้น
ก็จะต้องเป็นผู้ล่วงรู้ข้อมูลนี้
(แล้วเก็บไว้เป็นความลับทางราชการ)
แน่นอน อันผู้รู้แผนงบประมาณประจำปี
ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาตินั้น
ผมเชื่อว่า ย่อมไม่ปล่อยข้อมูลลับนี้
ออกไปสู่มือ พุทธอิสระแน่

เว้นแต่ "ท่าน" จะเป็นหนึ่งในจำนวนคนชั่ว
ที่เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด อยู่เบื้องหลังเกมส์สะกัด
สมเด็จช่วงนี้ไปกับเขาด้วย

   ข้อที่ 2   

ผู้ใดผู้หนึ่ง หรือคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
ในทีมเลขานุการ อดีตสมเด็จพระสังฆราช
เป็นผู้ปล่อยข้อมูลนี้ออกไป
อย่างน้อยก็ไปสู่มือพุทธอิสระ
เพื่อชงเรื่องไปยัง สต.ง
เพื่อเปิดทางการตรวจสอบแบบเอาตาย

   ข้อที่ 3     


สตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่ ที่เป็นบุคคลในระดับ 
God mother แห่งห้องกระจก วัดบวร
เป็นอีกผู้หนึ่ง ซึ่งล่วงรู้ข้อมูลนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

และGod mother ผู้นั้น
ก็เป็นผู้ขยับหมากแต่ละตัวให้เดิน
เพื่อหวังผลแห่งการทำลายความชอบธรรม
ของผู้มีความชอบธรรม คือ สมเด็จช่วง
ต่อตำแหน่งพระสังฆราช

ดังนั้นผมจึงให้ทุกท่าน
ย่อมขีดเส้นจำกัดวงบุคคลเหล่านี้
ซึ่งนับว่า "เป็นคนใน" ให้เพียง 3 ข้อนี้เท่านั้น
ที่เป็นผู้ปล่อยข้อมูลเรื่องเงินนี้ออกมา
เพราะที่เหลือไม่ว่าจะเป็น
เจ้าอาวาสตามวัดธรรมดาทั่วๆ ไป
เจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ
เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะภาค
หรือแม้แต่ระดับเจ้าคณะใหญ่
ก็ย่อมยังนับว่า "เป็นคนนอก" อยู่นั้นเอง
ไหนเลยจะลึกเข้าไปในข้อมูลนี้ได้
ซึ่งแน่นอน แทบจะไม่มีใครล่วงรู้เลยว่า
"มีเงินจำนวนนี้อยู่"

    ตอนที่ 3    

   ความหลง ความโลภ จึงเริ่มเผยตัวตน    

สตรีถือหอกทิ่มแทงสงฆ์
สตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่ปรากฎกาย
"ตะหวาดลั่น"
เหตุการณ์ไหลมาจนเมื่อ..
สมเด็จพระสังฆราช วัดบวร สิ้นพระชนม์

ตามระเบียบ..

จึงมีความจำเป็น
จะต้องโอนเงินจำนวนนี้
ไปถวายผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
โดยหน้าที่ตามระเบียบ
สำนักงบประมาณแผ่นดิน
และหากไม่โอนไป..จะต้องถูกเรียกคืนแผ่นดิน!

แล้วแล้ว สตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่
ก็ปรากฎตัวขึ้น เพื่อต่อรองเงิน 23 ล้าน
ท่ามกลางวงธารกำนัล ...
ในการณ์ครั้งนั้น เธอได้ตะหวาดลั่น

กรี๊ด..!!

ใส่บิ๊ก! ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
ระหว่างในการประชุมเตรียมงาน
พระศพสมเด็จพระสังฆราช

ที่ไหนเมื่อไร?

หาข้อมูลไม่ยาก? ว่า ...

"ถ้าอยากอยู่ในตำแหน่งไปจนสิ้นอายุราชการ
ก็อย่ายุ่งกับเงิน 23 ล้าน"
เมื่อนั้นหรอกครับ จึงเป็นการยืนยันการมีอยู่
แห่งเงินร่วม 300 ล้าน นับแต่พระสังฆราช
อาพาธเป็นต้นมานี้จึงเป็นคำตอบ ที่ว่า...

แล้วพุทธอิสระ มาล่วงรู้ข้อมูลนี้ได้อย่างไร?

แต่คำถามที่ตามมาก็คือ แล้วเหตุไร?
เธอผู้เป็นบุคคลระดับ God mother
สตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่คนนี้

หล่อนได้ไปกินดีหมีมาจากไหน?

จึงได้กล้าหาญ ออกมากราดเกรี้ยว
เกรี้ยวกราด เอากับบุคคลระดับอธิบดี
ได้ขนาดนั้น.!
เพียงเพราะการโอนเงินประจำตำแหน่งนี้
ไปให้สมเด็จวัดปากน้ำ

ในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชนั้น
ซึ่งมันก็แค่เป็นไป ตามระเบียบของ
สำนักงบประมาณแผ่นดิน ทุกประการเท่านั้น
ไม่ได้ผิดหรือซับซ้อนอะไร
คำตอบตรงนี้ ก็คือ God mother นั้น
เธอได้หลงผิดขนาดหนัก ความคิดทางชั่วหยาบ
ทำให้เธอ กำลังวางแผนคิดการใหญ่
ที่จะสร้างอำนาจแห่งห้องกระจก
ขึ้นมาใหม่นั้นเอง.!

เพื่อจะใช้ตรงนี้ แทนอำนาจเก่า
ที่ได้ปลาศนาการไป พร้อมกับการตาย
ของ God mother คนเก่าต่อไป
ซึ่งในคราวครั้งนั้น..
ประตูห้องกระจกได้ถูกปิดลงสนิท
หลังการสิ้นพระชนม์
ของสมเด็จพระสังฆราชไปแล้ว

   ตอนที่ 4  

   ลำดับแผนสกัดสมเด็จช่วง   

      สาเหตุแห่งปัญหาสงฆ์       


เกิดเพราะแก๊งค์ชั่ว
คิดแต่เรื่องทำชั่วเป็นอย่างเดียว
สตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่ ผู้ถือหอกจึงสรุปว่า...

"ถ้าต้องการให้อำนาจห้องกระจก
จะกลับมาเบ็ดเสร็จสมบูรณ์ได้อีกครั้งนั้น
มีเพียงทางเดียว คือ...
ก็ต่อเมื่อสมเด็จฯ (พระของฉัน)
ที่หมายตาไว้ ได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง
พระสังฆราช เท่านั้น"

เพราะนั่นมันหมายถึงอำนาจ
การควบคุมผลประโยชน์
จากตำแหน่ง สมเด็จพระสังฆราช
ก็จะกลับมาสู่ห้องกระจกอีกครั้งหนึ่งด้วย


เหมือนสวรรค์ไม่เล่นด้วยกับงานชั่วนี้
เพราะต้องเผชิญ กับความชอบธรรม
กับตำแหน่งพระสังฆราชที่หมายตานี้
ไม่ว่าจะความชอบธรรม โดยสมณศักดิ์
ความชอบธรรมโดยอาวุโส
หรือความชอบธรรมโดยกฏหมาย
เหล่านี้ มันไม่ได้มีอยู่กับสมเด็จฯ
ที่สตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่ หมายตาไว้เลยทั้งสิ้น

ดังนั้นยุทธการ "ทำลาย"
ผู้มีความชอบธรรม
จึงถูกกำหนดขึ้นอย่างซับซ้อน
หลายขั้นตอน
หลายตัวละคร ในการเล่นกล
ใช้สารพัดวิธี เพื่อไม่ให้สมเด็จช่วง
มีความชอบธรรม ต่อตำแหน่ง
สมเด็จพระสังฆราช
เพื่อให้ทุกอย่างได้บรรลุความปรารถนา
ของตน!

การ "ทำลาย ความชอบธรรม"
ดังที่ว่านั้นจึงถือเป็นวิธีเดียว ที่จะทำให้..
สมเด็จส้มหล่นฯ ที่ตนหมายตาไว้
สามารถก้าวสู่ตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชได้
แผนชั่วเรื่อง เงินพระสังฆราช 300 ล้าน
จึงถูกนำมาเป็นเงื่อนไขหนึ่งในยุทธการ
ทำลายความชอบธรรม
ที่ถูกกำหนดจากสตรีผู้นี้ !

   ตอนที่ 5  

   เผย God Mother ลำดับแผน   

    สะกัดสมเด็จช่วง    

คำพูดประโยคที่ถูกส่งมาจาก อเวจีนรก
แทบไม่น่าเชื่อว่า ..
ในโลกนี้ ในกลุ่มคนที่ได้ชื่อว่า

"สตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่"
จะมีสตรีที่ชั่วช้าที่สุดในโลก
สอดแทรกอยู่ด้วย

มาฟังคำพูดที่หลุด จากปากอันโสมม
ของสตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่ผู้นั้น
ว่าจะเจ็บแสบแค่ไหนย้ำให้จำกันชัด ๆ อีกว่า...


ถ้า "มัน" อยากเป็นพระสังฆราช

ก็ให้ไปจัดการจับ "ธัมมชโยสึก"
ให้ได้ก่อนจะได้เห็นว่า
ไม่หย่อนยานสมรรถนภาพ
ถ้าจัดการธัมมชโยไม่ได้
ก็ให้"มัน"เป็นได้แค่
ตาช่วงไปจนตาย"

ยัง.. ยังไม่ชั่วสมบูรณ์พอ

เธอได้สำรอกท้านรกต่อไปว่า..
หากเอา "มัน" ติดคุกตอนแก่
ด้วยเรื่องรถ ไม่ได้

ก็ให้เอาเรื่องพระลิขิต
เอาเรื่องพระลิขิต ไม่ได้

ก็ให้เอาเรื่องหมิ่นหลอกเสนอ
เลื่อนสมณศักดิ์ให้ธัมมชโย

และหากเอาเรื่องมิ่นหลอกเสนอ
เลื่อนสมณศักดิ์ ไม่ได้
ก็ให้ "มัน" ติดคุกตอนแก่
เพราะยักยอกเงินพระสังฆราช

ถึงตรงนี้ ผมก็อยากจะบอกกลับ
ไปยังสตรีชั่วนางนั้นว่า ...
คำเหล่านี้ ในข้างต้นนั้น
หากเห็นว่าผมพูดผิด "แม้คำเดียว"
ท่านโต้มาเลยครับ ทางไกลก็ได้
ผม และทีมงาน
จะได้ดำเนินการลากไส้เหม็นของท่าน
ออกมาให้มากกว่านี้!!

จะเอาให้ "มึง" อยู่ในสังคมพุทธไม่ได้เลย
อะไรต่ออะไรมันจะได้ "เร็วๆ" กันไปเลยครับ"

หาก "ท่าน"
ไม่ผิดดังว่าแล้ว ไม่ได้ชั่วดังกล่าว
จะเกรงอะไร กล้าทำก็กล้ารับ!

และขอให้ตอบโต้มาเลย
ผมจะรอนะครับ ย้ำ !

จะโต้มาทางไหน จะมืดหรือสว่าง
ใต้ดินบนดิน ผมเจ้าคุณเบอร์ลิน
รับรอง รับรู้ได้ทั้งนั้นครับ
ไม่เช่นนั้น ผมคงจะไม่สามารถ
ไปรับรู้ความเคลื่อนไหวแผนชั่ว
ของพวกคุณทุกช๊อทได้หรอก ไปคิดเอาเอง

ขอเตือนหน่อยว่า!

อย่าไปเสียเวลาสงสัยเลยนะครับว่า ..
เจ้าคุณเบอร์ลิน ได้ข้อมูลเหล่านี้
มาจากไหน และจากใคร?

จะบอกให้ครับ..
เรื่องนี้เขาซุบซิบ-โพนทะนากันดังก้อง
วัดเล็กยันวัดใหญ่ ขยายสู่สังคมบ้าน
กับกรุงเทพทั่วไทย โกอินเตอร์จนถึงเบอร์ลิน
เลยละครับ!

เจ้าคุณเบอร์ลิน ขอหมายเหตุไว้
ตรงนี้สักหน่อยเลยว่า

"มันชั่วได้ใจจริงๆ พวกนรกนี้"

แล้วก็อย่าได้หลง และหลอกตัวเอง
เลยนะครับว่า ..
หากหลบอยู่ ใต้สบงอันสกปรกโสโครก
ของพุทธอิสระ ด้วยภาพที่ดูเหมือนดี
ในมาดสตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่แล้ว
จะรอดพ้นจากสายชาวบ้านได้

อันนี้คิดผิดครับ.!
เพราะเรื่องชั่วเหล่านี้
เขารู้กันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้ว ว่า..
ท่านได้อาศัยคราบไคลของ

ภาพผู้มีศักดิ์ใหญ่ จอมปลอมนั้น

แต่ได้สร้างความชั่วร้าย

ให้กับพระศาสนา

กับสังฆมณฑล อย่างมากมาย
เพียงสนองความอยากอันสกปรกตน
ทำมาอย่างต่อเนื่อง อย่างยาวนาน

ขอ "ท่าน" พิจารณาว่า
หากไม่อายชาวบ้านเขา ก็อายตนบ้าง
อายลูกหลานตนบ้าง
เพราะพวกเขาจะต้องอยู่ในสังคมอีกนาน
เชื่อกันบ้างเถอะครับ.!

เตือนตรงนี้อีกครั้งว่า ..

ระวัง เวลาตายจะหาพระ
ไปสวดศพไม่ได้เอา นะครับ
อย่าล่อเล่นไปนะครับเพราะ

"ภูตปุพพัง ภิกขเวฯ"

เรื่องเคยมีมาแล้ว นั้นก็คือ...
สตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่ คนก่อน
ที่ได้ร่วมกับห้องกระจก ได้ไปก่อกรรมทำชั่ว
โดยแอบอ้างอำนาจ ของสมเด็จพระสังฆราช
ไปทำปู้ยี่ปู้ยำ จนเสื่อมพระเกียรติ
อดีตพระสังฆราชสารพัด..

แล้วก็อย่ามาข่มขู่เจ้าคุณเบอร์ลินว่า ..
ดูหมิ่นพระสังฆราช
ต้องมีความผิดตาม พรบ. สงฆ์"
ขอบอกว่า ..

ไม่เกี่ยวกับองค์ท่านเลย!
แล้วใครกันแน่ครับ..
ที่มีพฤติกรรมเช่นนั้น สวนทางกับภาพ
ที่ถูกสร้างขึ้นชนิดตรงกันข้าม

"กู" ดูหมิ่น "มึง"
(เหลืออดกับพฤติกรรมคนชั่ว)
ที่เป็นคนมักมาก และได้ก่อกรรมทำชั่ว
โดยแอบอ้างพระสังฆราช ต่างหาก
ไม่ใช่ดูหมิ่นพระสังฆราชใดๆ เลย

ย้อนวีรเวร สตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่

ที่ประวัติศาสตร์ วงการสงฆ์ไทย

จะต้องจดจารึก ก็คือ..

การออกพระลิขิตปลอม
เพื่อไปไล่คนเขาออกจากมูลนิธิ
จนนำมาสู่การฟ้องร้อง
กระทั้งศาลสั่งให้ติดคุกติดตะรางมาแล้ว

รวมทั้งการออกพระลิขิตปลอม
ในการขอยศศักดิ์ ขอตำแหน่งแห่งที่
ให้กับตนเอง ให้ตำรวจ ทหาร ใครๆ ก็ทราบทั่ว

รวมทั้งการ ออกเหรียญพระสังฆราช
รุ่นแล้วรุ่นเล่า เพื่อเรี่ยไรเงิน
เข้าพกเข้าห่อตนนั้นอีก

พฤติกรรมชั่ว ถึงขนาดลุกลาม
สู่วงการสงฆ์ที่เรียกว่า

"สังฆเภท"

ก็ไม่ผิดนั่นคือ การเอายศ เอาตำแหน่ง
ไปตกเบ็ด ไปหลอกให้พระที่ตนหมายตาไว้
เพื่อให้ "เปลี่ยนนิกาย"

คือพอใครหลงลาภยศ ก็จะทำการแปรญัตติ
เพื่อเปลี่ยนนิกาย เป็นธรรมยุติทันที
พร้อมอวยสารพัด!!
ยกจนเป็น"พระอริยเจ้า" กันหน้าสะลอน

ตรงข้าม..

หากพระรูปไหน ที่ท่านมีคุณธรรมสูง

ไม่ยอมก้มหัวให้แก๊งค์ชั่ว



ก็จะสรรหาวิธี นำมาใส่ความเขาสารพัด
ถึงขนาดลงทุน จุดไฟเผาอาจารย์ตนเอง
โดยไปทำการออกพระลิขิตปลอม
ก็ยังหน้ามืดทำลงไปได้มาแล้ว
เรื่องนี้เป็นมาอย่างไร ย้อนไปอ่านโพสต์
เก่าๆ ของเจ้าคุณเบอร์ลินก็จะแจ้งชัดได้ไม่ยาก

เรื่องพระลิขิตปลอม เพื่อเปลี่ยนนิกายนี้
ขอบอกเบาๆ แต่คิดว่ารู้กันทั้งบางว่า
"เจตนากะเอาให้ถึงตาย.. เลยครับ
ทั้งก็ยังไม่หยุดชั่วเรื่องนี้ จนมาถึงทุกวันนี้ด้วย"
ส่วนจะหมายถึงใคร ผมคงไม่ต้องจารนัยแล้ว

แทรก..

บ้านเมืองวิปริตเพราะคนชั่วก่อกรรมหนัก
ในแผ่นดินด้วยพฤติกรรม ที่ลุชั่วสุดๆ
กระทำย่ำยีต่อสมณะชีพราหมณ์ผู้ทรงศีล
นี้แหละครับ..
ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้แผ่นดินไทย
เกิดดินฟ้าอาเภท วิปริต.
เกิดแห้งแล้งทุกแห่งที่ ผู้คนอดอยาก
เกิดทุพภิกขภัย ข้าวยากหมากแพง
ทุกข์ไปทุกหย่อมหญ้า ในทุกวันนี้


ขอพึ่งเทวดา..

เจ้าคุณเบอร์ลิน ประกาศโองการสาปแช่ง
เหตุการณ์ทั้งปวงที่กล่าวข้างต้นมานี้
ว่าไปก็หาใช่ความลับใดๆ ไม่.!
เป็นแต่พระสงฆ์ท่านส่วนมาก ท่านยึดความสงบ
ยึดพระธรรมวินัยครองตน สมสมณะ
ทุกท่าน จึงต่างกล้ำกลืนฝืนใจข่มด้วย
"ทมะธรรม" เพื่อให้กรรมเป็นผู้นำทาง
ด้วยการวางในอุเบกขาธรรม

แต่เจ้าคุณเบอร์ลิน ที่เผอิญนิสัย
ชอบสงเคราะห์คนชั่วให้ลงนรกได้สมหวัง
จึงบอกไปหลายครั้งว่า ..

"งานนี้กูเอาจริง"

"มึงต้องหยุดทำชั่วก่อน กูจึงจะหยุด"

ดังนั้น ผมจึงขอประกาศให้รู้ทั่วกัน
ตั้งแต่ยอดพรหมโลก ไปจนถึงก้นนรกว่า..
ที่จะกล่าวนี้ คือ คำสัตย์
ว่า..
ขอเทพเทวาทั้งหลาย จงฟังโองการ
ของเจ้าคุณเบอร์ลิน และจงพินิจ
ด้วยจิตอันเป็นธรรมสูงสุด..
นั้นก็คือ..

"เมื่อวาระแห่งกรรมถึง
เขาผู้นั้นแม้นจะสูงส่ง ยิ่งด้วยศักดิ์
สักเพียงไหน
ก็จะตายอย่างอนาถา และทุรนทุรายแสนสาหัส
ซ้ำจะหาพระสวดศพก็ยังไม่มี
นั่นเรื่องเก่าเคยมีมาแล้ว
พึงสังวร พึงสังวร และพึงสังวร
ไว้ให้ดี ๆ นะท่านนะ"
ขอเทพยดาจงรับทราบด้วย เทอญ.

    สรุป     

ใคร? คือสตรีถือหอกทำลายสงฆ์

เทียบเท่าสังฆเภท !

มาถึง ณ ตรงนี้ คงแจ้งในพฤติกรรมแล้วว่า..
ที่ผู้คนต่างตั้งข้อสงสัยว่า เขาเป็นใคร?
ทำไมจึงชั่วร้ายได้เพียงนี้..

ผมขอตอบตรงนี้ได้เลย
ด้วยพฤติกรรมคนชั่วรายนี้ ไปเลย
ขอทุกท่านจงค่อยๆ อ่านนะครับ
แล้วจะแจ้งครับว่า ..

1. สตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่คนใดก็ตาม
ที่ชอบแอบอ้างขอสมณศักดิ์ให้พระของฉันเนืองๆ

2. สตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่คนใดก็ตาม
ที่ได้ประกาศ ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ข้าราชการว่า ...
"วัดพระรามเก้า ไม่ใช่วัดประจำรัชกาล
แค่เป็นวัดทรงดำริสร้าง
เพียงเพราะไม่พอใจเณรน้อย
หน้าเตียงพระสังฆราชเท่านั้น"

3. สตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่คนนั้น คือ..
ผู้ที่จับหอกให้พุทธอิสระ พุ่งเข้าใส่
ทิ่มแทงคณะสงฆ์ คือสตรีผู้มีส่วน
แห่งการจัดการเงิน 300 ล้าน
ของอดีตสมเด็จพระสังฆราช

4. สตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่ ผู้กำลังคิดสร้างอำนาจใหม่
ขึ้นมาเพื่อต้องการควบคุมคณะสงฆ์ทั้งหมด
ผ่านสมเด็จพระสังฆราช-พระของฉัน

ต้นเหตุแห่งความวุ่นวาย
ปัญหาการตั้งสังฆราชรูปใหม่
ที่ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี
ได้เคยกล่าวไว้อย่างชัดเจน
นั้นเพียงแค่สตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่จอมชั่วคนนี้
เธอมีความรู้สึกว่า ..


สมเด็จช่วง เป็นพระมหานิกาย
ไม่ใช่พระธรรมยุติ
สมเด็จช่วงจึงไม่ใช่พระของฉัน
จึงเป็นพระสังฆราช ไม่ได้ !

5. สตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่คนเดียวกันนี้เอง
จึงใช้งาน พุทธอิสระ ให้เป็นปลายหอก
พุ่งเข้าใส่ สมเด็จวัดปากน้ำ อย่างแยบยล.!
ด้วยการสร้างภาพทางสังคม
เพื่อตบตาชาวบ้านชาวเมืองว่า ..

พุทธอิสระ เขาเป็นพระ "มหานิกาย"
พระมหานิกายเล่นกันเอง
จึงไม่เกี่ยวกับพระ "ธรรมยุติ"
ผู้เคร่งในพระธรรมวินัย ซึ่งเป็นพระของฉัน
แผนการ ยืม "หอกมหานิกาย"
พุ่งใส่ "มหานิกาย" นั้นเอง.!

เห็นผู้มากไปด้วยเล่ห์ เต็มไปด้วยเพทุบายไหมครับ
นี่เองที่สงครามเขาบอกว่า
"การศึกมิหน่ายเล่ห์"

ดังนั้นที่ผ่านมาทุกคนจึงเห็นแต่

ปลายหอก ?

แต่ไม่เห็นคนจับหอก.!

จนวันหนึ่ง เมื่อสวรรค์มีตา
ท่านจึงได้ถีบส่ง เจ้าคุณเบอร์ลิน
มาปรากฎกายขึ้น
ในท่ามกลางที่แผนชั่วเกือบจะสำเร็จอยู่แล้วเชียว
นามกรว่า "เจ้าคุณเบอร์ลิน"
จึงได้ออกมาร่ายรำเพลงอาวุธ
ไปทำลายความฝันของสตรีผู้ถือหอก
ลงอย่างราบคาบ
สารพัดขั้นตอนการทำชั่วต่างๆ
จึงพังแบบไม่เป็นท่า งงมึน
จนไม่รู้จะงัดมุกไหนมาเล่นได้อีก

อีกทั้งเจ้าคุณเบอร์ลิน ยังได้ทำการ
เพื่อกระชากหน้ากาก ของสตรีผู้มีศักดิ์ใหญ่
ซึ่งหลบอยู่ใต้สบงอันสกปรกโสมม
ของพุทธอิสระ
เพื่อนำออกมาประจานต่อสังคม
ชนิดอย่างไร้ความเกรงกลัวต่อสิ่งใดๆ
ทั้งสิ้นอีกด้วย.!

ดังนั้น ตัวตนแท้จริง ความชั่วที่สะสมมายาวนาน
ของสตรีโฉดท่านนี้ จึงถูกเปิดเผยออกมา
ให้สังคมเห็นไส้เน่า จนหมดสิ้น
แจ่มแจ้ง ชัดเจน อล่างฉ่าง อย่างสุดคาด.!
"มัน" จึงประเคนสารพัดอย่าง
พ่วงด้วยคดีความ 2 คดี
แก่เจ้าคุณเบอร์ลินอย่างไงครับ 
ถึงวันนี้ก็ยังพยายามอยู่.!


แต่พวกชั่วนี้ ดันคาดผิด นึกว่าจะหยุดผมได้
ก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากขอยืนยันอีกสักครั้งว่า..

"งานนี้กูเอาจริง"

"กูไม่กลัวมึง"

"มาไงก็ไปงั้น คดีมาก็คดีไป"

"มึงต้องหยุดทำชั่วก่อน กูจึงจะหยุด"


จากนี้ไป ก็ต้องลองดูว่านอกจาก
วัดธรรมยุติแล้ว..
สตรีผู้นี้ ยังจะมีหน้าไปวัดไหนอีก
ในผืนแผ่นดินพระพุทธศาสนา

เป็นไงครับ เห็นความชั่วสุดๆ
ดังที่ผมได้สาธยายมาแต่ต้นจนถึงนี้
ผมว่าหากไม่เรียกว่า ...
"อภิมหาโคตรชั่ว"
แล้วจะให้เรียกว่าอย่างไรละครับผม

     ขอจบท้ายที่ว่า     

ผมขอให้ท่านทั้งหลาย
ได้กรุณาค่อยๆ อ่าน
พร้อมกับสกรีนผู้หญิงคนที่มีพฤติกรรม
ดังที่ผมได้แจงมาตั้งแต่ต้นๆ โพสต์
จนถึงบรรทัดนี้ อย่างละเอียดอีกครั้ง
แล้วท่านก็ทราบแล้วแหละครับว่า

"มัน" เป็นใคร.!

เพราะถึงจะ....
ไม่เอ่ยชื่อก็เหมือนเอ่ยชื่อ
ไม่โชว์รูปก็เหมือนโชว์รูป
เพราะแจ้งในพฤติกรรมทั้งหมดแล้วครับ
สุดท้าย ทุกท่านก็จะร้องว่า
"อ๋อ.. คนนี้ นี่เอง"

ส่วนฝ่าย ค่ายผู้สังกัดนิกายเคร่งจอมปลอมนั้น
หากคิดจะส่งใครมาโต้เรื่องนี้
กับเจ้าคุณเบอร์ลินละก็..
ผมก็ขอเชิญนะครับ.!

ผมรออยู่.. แต่ในเบื้องต้นก็ให้มาแก้ข้อความ
"ประโยคนรกส่งมา" ในข้างต้นนี้
ให้ได้เสียก่อนนะครับ
และขอคนฝีมือหน่อยนะครับ.!

ส่วนพวก กระจอกๆ อย่างที่เคยส่งมา
เล่นเกมส์แบบโง่ๆ ที่ซ่าไม่เข้าเรื่องล่าสุด
ดันไปยื่น สตง. ให้ตรวจสอบฝ่ายตนเองเสียเอง
จนเกือบจะตายยกรังทั้งค่ายมาแล้วนั้น..

ไม่ต้องส่งมานะครับ..
เพราะเดี๋ยวประตู "คุก" จะเปิดเร็ว
มาเร็วก่อนกำหนด.!

โชคดีมีชัยทุกท่านครับ
เจ้าคุณเบอร์ลิน
23.04.2016

ขอบคุณภาพจาก > pladaodesign.com ,Fb ภาพดีๆ 072
------------------------------------------------------------------



God Mother เปิดฝาโลงสตรีถือหอก หลอกตกเบ็ดพระโดยเจ้าคุณเบอร์ลิน ! : กรณีธรรมกาย God Mother เปิดฝาโลงสตรีถือหอก หลอกตกเบ็ดพระโดยเจ้าคุณเบอร์ลิน ! : กรณีธรรมกาย Reviewed by สารธรรม on 03:51 Rating: 5

4 ความคิดเห็น:

  1. With deep respect and awe for the forbidden truth!

    ตอบลบ
  2. น่าสนใจมากๆค่ะ ได้มองเห็นอะไรเพิ่มขึ้นเยอะ ถึงเวลา ธรรมะ "เอาคืน"

    ตอบลบ
  3. ขอกราบขอบพระคุณ. พระคุณเจ้าอย่างสูงสุดที่อธิบายให้ทราบว่าใครคือใคร

    ตอบลบ
  4. นั่นนะสิ มันคือใครหว่า

    ตอบลบ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.