แก๊งป่วน "วงแตก" กฤษฎีกาเคาะมติตั้งสังฆราชถูกต้อง :เจ้าคุณเบอร์ลิน

รัฐบาลอ้างมีคดีความ 

อ้างขัดกฏหมาย !


ในเมื่อไม่ให้เกียรติต่อคณะสงฆ์

ก็ไม่สมควร..

ได้รับเกียรติจากคณะสงฆ์


ตั้งสังฆราชจากนี้ควรเดินต่อยังไง
ผลเสียหายต่อพระพุทธศาสนา
ที่จะต้องมีคนรับผิดชอบ

เข้าสาระสำคัญเลยนะครับ
เมื่อฤษฎีกาตีความ ม. 7 พรบ. 
สงฆ์ชัดว่า


"มติ มส. ถูกต้อง" ไปแล้ว


สังคมวันนี้จึงจับตาว่าที่ผ่านมา
ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังวางแผน
ทำอะไรบ้าง ?

และต่อไปใครจะรับผิดชอบผล
เสียหายต่อคณะสงฆ์ในครั้งนี้ 
และเรื่องนี้จะเดินต่อยังไง ?

เกียรติสงฆ์สูงกว่า เกียรติคฤหัสถ์
เพราะศีลกำหนด สิ่งที่รัฐบาลต้อง
ตระหนักคืออย่าริเอาวิธีการทำลาย
กันแบบคฤหัสถ์มาใช้ทำลายสงฆ์
โดยเด็ดขาด ขอย้ำ.!

แม้ในด้านหนึ่งพระสงฆ์จะไม่ถือยศ
ถือเกียรติตามสมณวิสัย เช่นชาวโลก
ทั่วๆ ไป แต่อีกสถานะหนึ่ง พระสงฆ์
กลับทรงไว้ซึ่งเกียรติยศอันสูงส่ง
เพราะทรงศีล ทรงธรรม

มีวิถีชีวิตที่เดินอยู่ในหนทางแห่ง
อริยมรรค 8 ที่สำคัญคือ ..

" พระสงฆ์ทั้งมวล ล้วนมีจิตใจที่หนักแน่น
และปักหลักในอุดมการณ์ เพื่อหยัดยืน
อยู่บนปณิธานอันแน่วแน่ และมั่นคง
เพื่อคุ้มครองป้องกัน และสืบต่ออายุ
พระพุทธศาสนา "

การที่คณะกรรมการกฤษฎีกา
หน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรงในการ
ตีความข้อกฎหมายของประเทศ 
ได้ตีความออกไปแล้วว่า..

การเสนอมติ ของมหาเถรสมาคม
เพื่อแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช
ในครั้งนี้นั้น ไม่ขัด ม. 7 พรบ.สงฆ์ฯ

ซึ่งแน่นอน..เมื่อผลออกมาเช่นนี้
ย่อมแตกต่าง ตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง
กับผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่เคยตีความ
ออกมาในเรื่องเดียวกันนี้ ไปก่อนหน้านี้
เมื่อเป็นเช่นนี้ที่เรียกว่า..

แตกต่างกันชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ 
แทบไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นหน่วยงาน
สังกัดรัฐบาลเดียวกันประเทศเดียวกัน.!

ดังนั้น เพื่อหาคนรับผิดชอบความเสียหาย
ใหญ่หลวงตรงนี้ให้ได้.. 

ถือเป็นกรณีตัวอย่างว่าเป็นข้าราชการ 
จงอย่าทรยศต่อแผ่นดินต่อประชาชน 

เจ้าคุณเบอร์ลิน และทีมงาน
ก็ขอแจ้งไปยังองค์กรชาวพุทธทั้งหลายว่า 

" จำเป็น ! ต้องแจ้งความเอาผิด
ผู้ตรวจการแผ่นดิน ในฐานะใช้อำนาจ
หน้าที่มิชอบ เอื้อต่อคณะบุคคลที่จงใจ
วินิจฉัยสร้างความเสียหายต่อ
พระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ "

เมื่อทำผิดร้ายแรงขนาดนี้แล้ว หากยัง
ไม่ยอมรับผิดละก็ ขอให้พากันยกโขยง
ไปทวงถามเช้าเย็นไปเลยเอาตามพระวินัย

จะตุขัตตัง ปัญจะขุตตุง ฉะขัตตุปรมัง

เป็นที่สุดต่อเดือน กันไปเลย!
ดูสิว่า สำนักงานตรวจผู้การแผ่น
จะสำนึกออกมารับผิดชอบอย่างไร
ต่อความผิดพลาดที่สร้างความเสียหาย
อย่างมหันต์ในครั้งนี้ ซึ่งก็ต้องพูดแบบ
ตรงไปตรงมาว่า..

"หน่วยงาน ที่ชื่อผู้ตรวจการแผ่นดินนั้น
ไม่ได้มีหน้าที่ หรือเกี่ยวข้องใดๆ เลย
ในการตีความข้อกฎหมายใดๆ โดยเฉพาะ
เกี่ยวกับการปกครองคณะสงฆ์แต่กลับ
มารับเรื่องไปตีความทั้งคำตีความที่แถลง
ออกมาก็อ้างแบบมีพิรุธแทบทุกแถว
ดูลุกลี้ลุกรนชอบกล มีแค่เลขาธิการ
ดำเนินการ "

ครั้นตีความออกมาก็ตีความแบบฟ้องชัด
ว่ารับลูกตามพวกแก๊งค์ป่วนศาสนาอย่าง
น่าสงสัยซึ่งในครั้งนั้นหลายฝ่ายรวมทั้ง
ผมด้วยต่างก็พยายามทักท้วงยกเหตุผล
สารพัดเพื่อชี้ให้เห็นว่าอะไรเป็นอะไร



แต่สุดท้ายก็ไร้ผล 

คนเป็นเลขาธิการที่ชื่อ

แปลกๆ ซึ่งผมก็จำไม่ได้แล้ว?


ได้ตั้งโต๊ะออกมาแถงการณ์แจกจ่าย
เอกสารกันใหญ่โต ยาวมาถึงทุกวันนี้
สังคมก็ยังอยู่ในอาการงงงวยสงสัย ?

กับในพฤติกรรมคลุมเครือทำให้ชวน
สงสัยในครั้งนี้ พร้อมตั้งคำถามว่า ..

มันเกิดอะไรขึ้น แล้วมันเรื่องอะไร ?
ที่หน่วยงานอันทรงเกียรติระดับประเทศ
ระดับนี้ จึงดันทุรังออกมารับเรื่องแบบนี้
โดยไม่ใส่ใจเสียงทักท้วงใดๆ เลย
ทั้งยังออกมาตีความแบบนี้ออกมาได้อีก

เพราะลำพังเรื่องง่าย ๆ แค่นี้แค่ถาม
คนมายื่นว่าเป็นใคร ?

มีความเกี่ยวข้องหรือเสียหายโดยตรง
หรือมีคุณสมบัติในการยื่นเรื่องนี้หรือเปล่า 

เพียงแค่ชี้แจงคนที่มายื่นเขาไป
ก็จบเรื่องแล้วที่สำคัญรู้ทั้งรู้ว่า..
เรื่องนี้มันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับตน
เลยทั้งสิ้น ทำไมจึงทำได้ถึงขนาดนี้
หรือมันมีเหตุผลอะไร
ที่ซุกอยู่เบื้องหลังหรือ ?
หรือมันมีใครสั่งอยู่เบื้องหลังหรือ ?
การตีความของกฤษฎีกาถือว่า..
ข้อกฎหมายนี้เป็นอันยุติ ต่อไปเป็น
การปฎิบัติเท่านั้น นั้นแสดงว่ามติของ
มหาเถรสมาคม ที่ออกมาในครั้งนี้
ล้วนเป็นไปตามกฎหมายสงฆ์
สรุปได้ว่าเรื่องนี้..

ชอบและถูกต้องทุกประการแล้ว!

นั้นก็คือ เจตนารมณ์ของกฎหมายนี้
ได้ชี้ชัดว่า..

"การเสนอชื่อผู้จะขึ้นเป็นพระสังฆราช
ไม่ใช่ต้องให้นายกฯ เป็นผู้ริเริ่มในขั้นแรก
ที่จะเป็นผู้เสนอก่อนแต่เป็น มส.เท่านั้น
ที่จะเป็นฝ่ายเริ่มตั้งเรื่อง ส่วนนายกฯ 
เป็นผู้นำขึ้นทูลเกล้าๆ เพียงอย่างเดียว
เท่านั้น "



ตรงนี้ชัดเจนนะครับ !

ขอย้ำ! เพื่อทบทวนให้จดจำ
เพื่อหาคนรับผิดชอบต่อความเสียหาย
ในครั้งนี้ถึงตรงนี้เรื่องนี้จึงควรยุติ
และย่อมสรุปได้ว่า ..

" ทั้งหลายทั้งปวง ที่ถูกต้องนั้นไม่ใช่
ดังที่นายไพบูลย์ พร้อมคณะยกมาอ้าง 
และออกมาพูดทุกวัน จนทำให้สังคมสับสน "

ไม่เฉพาะแค่พูดให้สังคมสับสนเท่านั้น
แต่พฤติกรรมของนายไพบูลย์ และพวก
ยังไม่จบเท่านี้ยังมั่วถั่ว ถึงขนาดเดินไป
ยื่นเรื่อง ต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อให้
ตีความตามที่อ้างอีกด้วย.!

สุดท้ายกับ หน่วยงานที่ชื่อหรูว่า
"ผู้ตรวจการแผ่นดิน"  ถึงวันนี้นั้น
ผมว่าน่าจะเรียกว่า ..

"ผลงานชิ้นนี้ ถือเป็นผลงานอันสุด
แสนอัปยศของผู้ตรวจการแผ่นดิน ! 
ที่ประวัติศาสตร์จะต้องจารึกจดจำไว้
นานเท่านานที่ดันออกมารับเรื่อง
ส่งเดช พร้อมตีความออกมาแบบไร้ราคา
ออกมาในทางตรงข้าม กับกฤษฎีกา
โดยสิ้นเชิงชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ
ดังที่ทราบกันโดยทั่วไป "

จริงๆ แล้ว เรื่องนี้มันเริ่มมั่วตั้งแต่เริ่ม
เลือกคบแต่คนพาลแล้วครับ.!

ผมได้เตือนมาตลอด เตือนด้วยความ
หวังดีจนกลายเป็นเป็นคดีความในศาล
ไปแล้วแต่ก็ไม่เชื่อกัน..

จากนั้นก็เพราะหน้ามืด ดันไปรับเรื่อง
และเอาไปตีความ ในทางตรงข้ามกับ
ความถูกต้องครั้งนั้น ก็โดยเลขาธิการ
ที่มีชื่อแปลกๆ อีกเช่นกัน ที่ออกมา
แถลงการณ์อย่างเอิกเริก แจกจ่าย
แจกแจงเหตุผลกว่า 10 แผ่น ยกอ้าง
แม้กระทั้งพจนานุกรมขึ้นมายืนยัน.!

ในคราวนั้น ผู้คนแทบจะเรียกว่า..
ทั้งแผ่นดินต่างตาค้าง ตกตะลึงเห็น
ลางร้ายแห่งความชั่วร้ายความหายนะ
ที่จะปรากฏในแผ่นดิน และต่างออกมา
คัดค้านหนึ่งในนั้นคือผมเจ้าคุณเบอร์ลิน
นี้แหละ.!

ผมจำได้ว่ารองนายกฯ วิษณุ เครืองาม
ถึงกับต้องรีบออกมาเบรกกระแส 
ออกมาตัดไฟต้นลมกันเลย.!



ถือเป็นผลงานเป็นการตีความ

ที่ประจานตนเองชนิดโง่ที่สุด

ก็ว่าได้.. 


ก็ต้องเรียกว่า
มีอาการลักษณะ ฉุดกระชากลากถู
ดันทุรังยังไงยังงั้นแหละครับ..

จนสุดท้าย รวมสมคบกันถ่อลากไปยื่น
ต่อ กฤษฎีกา โดยคุณสุวพันธุ์ คนกำกับ
สำนักพุทธฯ ที่นำไปยื่นในช่วงระหว่าง
รอผลจากกฤษฎีกา ตีความออกมานั้น
บรรยากาศก็ต้องเรียกว่า เข้าสู่โหมดที่
เรียกว่า พากันนั่งยิ้มกระหยิ่มในใจของ
แก๊งค์ป่วนศาสนาว่า..

งานนี้ "กฤษฎีกา" ต้องตีความตาม
ผู้ตรวจการแผ่นดินแน่ๆ พอสรุปผลจาก
กฤษฎีกาก็อย่างที่ปรากฏคือกลายเป็นว่า


มติ มส. ครั้งนี้

ถูกต้องทุกอย่างซึ่งตรงข้าม

กับผู้ตรวจการแผ่นดิน

อย่างสิ้นเชิง!!

ผลการตีความ ของกฤศฎีกาในครั้งนี้
ข่าวรายงานว่า..

เล่นเอา บรรดาสมาชิกแก๊งค์ป่วน
ศาสนาถึงกับ "วงแตก" กันเลยครับ
ในวันนี้ทำได้แค่ พยายามเก็บอาการ
ทำทีนิ่งๆว้ก่อน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ
ไม่สามารถต้านทานข้อเท็จจริงได้
นั้นเอง

สำหรับ สำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน
ที่มีชื่อโก้ตรงข้ามกับผลงานนั้น
ผลงานที่สร้างชื่อเสียแก่หน่วยงานตน
ในครั้งนี้ ก็อย่าไปโทษใครเลยครับ 
ก็เพราะตัวเองนะแหละที่ดันทุรัง
เสียเองหน้ามืดเสียเอง

โดยเฉพาะคนเป็น
เลขาธิการที่ออกมาแถลงข่าวครั้งนั้น..

"ย้ำตรงนี้หากยังกล้า (หน้าด้าน)
อยู่ตรงนี้ต่อไป ก็เกินคนแล้วละครับ"

ส่วนจะจัดการกับชะตาชีวิตที่พอจะเดิน
ในสังคมได้บ้างอย่างไร ก็ไปคิดเองนะ
ท่านเลขานะ ทำผิดพลาดก็รับซิครับ
จะมามั่วให้หน่วยงาน หรือคนอื่นเขา
มาร่วมรับได้อย่างไร.?

มีคำถามตรงนี้ของสังคมสั้นๆ ง่ายๆ
ที่ฝากผมมาว่า..

" สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน
มีไว้ให้เปลืองภาษีทำไม ?
เพราะลำพังแค่งานง่ายๆ เช่นนี้
ยังทำผิดพลาดมหันต์เกิดความ
เสียหายใหญ่หลวงถึงเพียงนี้
หากเป็นงานสำคัญๆ ของแผ่นดิน
จะไว้วางใจได้อย่างไร ?

ที่สำคัญกับความผิดพลาดครั้งนี้
หน่วยงานแห่งนี้จะแสดงความรับ
ผิดชอบที่เสียหายแก่คณะสงฆ์
แก่ชาวพุทธ แก่สังคมอย่างไร ? "

โปรดไปพิจารณา และตอบสังคม
เอาเองนะครับ..แต่หากไม่คิดจะ
รักษาเกียรติยศชื่อเสียงหน่วยงาน
ตนเอง ก็คงไม่มีใครว่าหรอกครับ 
ตามสบายครับเพราะวันนี้
ผู้คนทั้งแผ่นดินเขาจดจำคำว่า..

"ผู้ตรวจการแผ่นดิน
ไปกันหมดแล้ว"

ส่วนเอกสารที่เลขาธิการเคย
นำออกมาแถลงการณ์ในครั้งนั้น
หากยังไม่รู้จะเก็บไว้ที่ไหน.?

ผมขอแนะนำว่า..
ให้ไปนำใส่กรอบแล้วติดไว้
หน้าสำนักงาน !

เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งผลงาน
ของผู้บริหารชุดปัจจุบัน 
เพื่ออนุชนในอนาคตจะได้
เชิดชูต่อไปนะครับ.!




ว่าไปแล้วก็เพียงแค่คิดว่า

ตัวคุณไพบูลย์ นิติตะวัน

ผู้มายื่นเรื่องนั้น..มายื่น

ในฐานะอะไร ?


เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้เสียหาย
โดยตรงหรือเปล่า ?

มีสิทธิ์ยื่นเรื่องนี้หรือเปล่า ? 
ก็แค่นั้น..

ซึ่งเขาก็เป็นแค่ชาวบ้านประชาชน
ธรรมดา คนหนึ่งเท่านั้น!

เขาจะมาเกี่ยวอะไร หรือเสียหาย
โดยตรงอะไรกับงานปกครอง
คณะสงฆ์.?

เพราะเรื่องแบบนี้..

มันเป็นเรื่องการปกครองคณะสงฆ์
เป็นงานพระศาสนาตั้งแต่เจ้าอาวาส
เจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ
เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะภาค
เจ้าคณะหน กรรมการมหาเถรสมาคม.!


คุณไพบูลย์ และแก๊งค์

มีตำแหน่งหน้าที่อะไร ?


ในงานตามลำดับชั้นการปกครองสงฆ์
ดังกล่าวมานี้..

คิดง่ายๆ แค่นี้ก็รับไว้ไม่ได้ตั้งแต่
แรกแล้วพูดไปเหนื่อยครับบื้ออะไร
ขนาดนี้ก็ไม่รู้เพราะแบบนี้ละมั้ง 
ประเทศจึงไม่เจริญสักที ก็เพราะ
มีข้าราชสมองกลวงแบบนี้แหละ
แล้วผลเป็นไง ก็ไม่อยากซ้ำเติม
แต่อยากพูดว่า "สมน้ำหน้า" ครับ.!

นายกรัฐมนตรี ควรทำอย่างไร ?
ต่อจากนี้..

บางเรื่อง ผมมันคนชอบคิดมาก
ครั้งนี้ก็เช่นกัน โดยใช้สามัญสำนึก
ทางบวกคิดต่อว่ากรณีนี้ จะว่าไปแล้ว
แม้กฎหมาย ม.7 นี้ว่าไว้..

ให้นายกรัฐมนตรี โดยความเห็นชอบ
ของมหาเถรสมาคม นำชื่อกราบ
บังคมทูลฯนั้นโดยข้อเท็จจริงก็คือ ..

" ตัวนายกรัฐมนตรีเองนั้น
หาใช่คนที่เดินถือเอกสารเพื่อนำ
ขึ้นทูลเกล้าฯ ถึงองค์ในหลวงไม่
เพราะจะต้องผ่านสำนักราชเลขาธิการ
หรือเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ
ตามระเบียบอยู่ดี "

เมื่อเป็นเช่นนี้ หากวันใดข้างหน้า
เกิดมีคนผู้ที่ได้รับความเสียหาย
จากกรณีนี้ เกิดนำเรื่องไปฟ้อง
ต่อศาลว่านายกรัฐมนตรีเจตนา
ละเว้นหรือก้าวล่วงพระราชอำนาจ
เสียเองในภายหลังจะทำอย่างไร ?

อ้าว! ไม่แน่นะครับ..
อย่าทำเป็นเล่นไป เพราะประเทศ
ไทยนั้นอะไรๆ มันก็เกิดขึ้นได้
ทั้งนั้นเพราะอำนาจมันก็ไม่ได้
อยู่คงทนถาวรเสียที่ไหน

ถ้ามันจะเกิดก็คงห้ามไม่ได้
หรอกครับจริงไหมท่านนายก.!
งานนี้มีคนคิดนะครับ ผมจะ
กระซิบให้ทราบไว้


สงฆ์เตือนนายกบิ๊กตู่ 

จงคิดดีๆ ต่อการดำเนินการ

ที่ล่อแหลมในครั้งนี้


จากนี้ต่อไป ตัวนายกรัฐมนตรี
นั้นแหละจะถูกกดดันจากสังคม
ในความชอบธรรมเสียเองทีนี้
ก็ต้องคอยดูต่อไปว่า นายกฯ
จะไปทางไหน ออกทางไหน
ระหว่างขาวกับดำ

แต่เจ้าคุณเบอร์ลิน และทีมงาน
ร่วมกันวิคราะห์แล้วเห็นตรงกันว่า..

" ถึงขนาดกฤษฎีกา ตีความออกมา
แบบนี้แล้วคงไม่มีทางเลือกแล้ว อีกอย่าง
เพราะกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจในการ
ใช้ดุลยพินิจได้ หรือต้องตรวจสอบ
ประวัติอื่นใดก่อน หรืออ้างใดๆ
ได้ตามอำเภอใจ "

หากไม่เสนอต่อไปตามลำดับหรือ
ส่อเจตนายืด เพื่อดึงเรื่องไว้ตัวท่าน
นายกรัฐมนตรีเองนั้นแหละ..

ก็อาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติ
หน้าที่เสียเอง หรืออาจถึงขั้นถูก
กล่าวหาว่าก้าวล่วงพระราขอำนาจ
ก็เป็นได้ครั้นจะเสนอจริงๆ

ก็ใช่ง่ายเพราะชีวิตดันไปติดหนี้


บุญคุณคนไว้มากเพื่อแลก
กับอำนาจที่ได้มา..

ดังนั้นตามรูปการณ์ ท่านนายกรัฐมนตรี
ก็จะถูกแก๊งค์ชั่วขี่คอเอาแบบหมดราศรี
ซึ่งก็น่าเหนื่อยใจแทนนะครับว่าไปแล้ว
ไม่พูดต่อดีกว่าตรงนี้



แต่ขอเตือนท่านนายกว่า

อันงานบริหารราชการ

แผ่นดินสำคัญเช่นนี้ !

คงตัดสินใจได้ไม่ยากหรอกครับ
เลือกฝ่ายก็ไม่ยากด้วย หากท่าน
ตั้งจิตให้เป็นกุศล

เพราะระเบียบแบบแผนราชประเพณี
มันมีให้ถือปฎิบัติอยู่แล้วนอกจากท่าน
จะไปซวยโดนคุณไสย์ดำที่ผสมเลือด
จริงๆ ดังที่เขาลือเท่านั้นแหละครับ!

ที่จะทำให้นายกมืดบอดจนถึงกับ
ออกปากฆ่าตัวเองว่า..

"ไม่เสนอสมเด็จช่วงเป็นสังฆราช
เพราะคดีความยังไม่จบ"

ตรงนี้ เจ้าคุณเบอร์ลิน ก็อยากจะฝาก
ใครก็ได้ ที่อยู่เมืองไทยให้ช่วยเดิน
ไปถามถึงหน้าห้องนายกดังๆ 
ให้หน่อยว่า ..

ที่ว่าเพราะคดีความยังไม่จบนั้น
เป็นคดีความใคร?

เป็นคดีความท่านธัมมชโย
ที่ยังไม่จบหรือครับ?

แล้วนั้นมันเกี่ยวอะไรกับการตั้ง
สมเด็จวัดปากน้ำเป็นสังฆราช?

มันคนละเรื่องกัน คนเป็นถึงนายก
อย่า (เสือก) เอามาพันกันจนไม่รู้
ผิดชอบชั่วดีไปเลยจงอย่าลำพอง
ใจอยู่เลย!

วันนี้กับวันวานมันไม่เหมือนกันแล้ว
ท่านก็คงทราบแก่ใจดี ผมจะบอกให้
เพื่อนกอดคอกับท่านมาแท้ๆ ยังคิดงัด
เก้าอี้ท่านทุกวันเลยอย่าคิดว่าคนเป็น
นายกฯ จะทำอะไรก็ได้ ตามอำเภอใจ
อย่าลืมนะครับว่า ..

นี่มันเรื่องศรัทธา เรื่องศาสนา
เรื่องเวรกรรม ไม่ใช่เรื่องทหาร
ไม่ใช่เรื่องการเมือง อย่าเอา
การเมือง มาเล่นการศาสนา !

เอาการทำลายทางการเมือง
มาทำลายพระสงฆ์องค์เจ้าทาง
ศาสนามันจะพาส่งถึงนรกได้เร็ว
ผมขอเตือนหนักๆ ว่า..

อย่าท้าทายศรัทธา อย่าบีบคั้น
อย่ามาสร้างเวรสร้างกรรมกับ
พระสงฆ์เลยเตือนแค่นี้แหละครับ 
อาจพูดแรงแต่คนอย่างผมมีความ
จริงใจต่อผู้คนเสมอครับ.!


ย้ำความชอบธรรม

ต้องสมเด็จช่วงเท่านั้น!



ผมจะพูดตามธรรมวินัย 
และกฎหมายเท่านั้นนะครับ 

กรณีหลวงพ่อสมเด็จช่วง
ที่จะไม่สามารถขึ้นเป็นสังฆราช
ได้นั้นก็ด้วยกฎหมายเปิดช่อง
เพียงทางเดียวที่ไม่สามารถตั้งได้ 
นั้นคือ ..

"กรณีเกิดสมเด็จวัดปากน้ำ
ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เท่านั้น"

แต่ทุกวันนี้ท่านหลวงพ่อสมเด็จ
วัดปากน้ำฯ ก็ยังมีสุขภาพแข็งแรง 
เดินขึ้นเหนือล่องใต้ปฏิบัติหน้าที่
ไม่ขาดตกบกพร่องคณะสงฆ์
จึงขอถามนายกว่า..

"ท่านยังจะอ้างอะไรได้ครับ"

ก็อย่าให้สังคมเขาคิดอีกนะครับว่า..
ไม่รู้จะอ้างอะไรเป็นเหตุ เลยอ้างตาม
แก๊งค์ชั่วว่า.. " คดีความยังไม่จบ! "
หากเป็นเช่นนี้จริงละก็บอกตรงๆ ว่า
ท่านจะอายุสั้นครับ.!

สื่อถึงทั้งหมดตั้งแต่แก๊งค์ชั่ว 
ถึงเสนาบดี จนถึงนายกรัฐมนตรี 
ผมเองก็ไม่อยากจะเอาคำพูด
ของท่านพระมหาเถระ
ระดับกรรมการ มส. มาพูดให้ฟังว่า..

งานนี้เรียกว่า มันรวมหัวกัน
เพื่อรุมกินโต๊ะพระเเก่ๆ รูปหนึ่ง
ทั้งๆ ที่ มส. ก็มีมติไปแล้ว
ทำลงไปได้อย่างไร จิตใจมัน
ทำด้วยอะไรกันน้อ ?



ดังนั้นถึงตรงนี้ ผมและทีมงาน

ก็ขอเป็นตัวแทนชาวพุทธ

ทั้งแผ่นดิน สื่อไปถึงท่าน

นายกบิ๊กตู่ว่า..


" ขอให้รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี
ได้ถวายเกียรติคณะสงฆ์โดยการ
เสนอนามสมเด็จพระราชาคณะ
ตามที่มหาเถรสมาคมทั้งฝ่าย
ธรรมยุติ และมหานิกายได้มีมติ
ไปแล้วให้ดำเนินการไปตาม
กระบวนการด้วยเถิด "

ทั้งนี้ก็ไม่ใช่แค่เพื่อสมเด็จช่วง
จะเป็นสังฆราชแต่เพื่อเป็นการ
รักษาสถาบันสงฆ์ถือเป็นการ
ทำดีต่อพระศาสนา และหวังดี
ต่อบ้านเมืองโดยรวม

จบกันสักทีกับเรื่องที่อ้าง
ป่วนรายวันนายกรัฐมนตรีครับ 
ผมจะอะไรบอกให้รู้อย่าง
คือไอ้เรื่องที่ พุทธอิสระที่
อ้างว่าผิดวินัย DSI
อ้างว่าครอบครองรถหรู 
รัฐมนตรียุติธรรมอ้างว่า
ครอบครองรถหลีกเลี่ยงภาษี.?
สุดท้ายตัวนายกรัฐมนตรี
ก็ออกมาอ้างว่า..

"มีคดีความ อ้างขัดกฏหมาย"

สารพัดอ้างอยู่ทุกวี่ทุกวันโดย
ไม่สนใจใดๆใคร ๆ เลยนั้นจากนั้น 
ท่านนายกจึงยกมาอ้างซ้ำ 
และไม่เสนอให้สมเด็จช่วงขึ้น
เป็นสังฆราชสักทีนั้นไอ้การอ้าง
แบบข้างๆ คู ๆ อย่างนี้ 
ชาวบ้านธรรมดาๆ ซื่อๆ เขาเรียก
ง่ายๆ กันว่า ..

"โกงกันตาใสๆ"

บรรยากาศ และอารมณ์
ของชาวบ้าน ชาวเมืองพวกเขา
ไม่ให้ราคากับคนเป็นนายก
รัฐมนตรีของประเทศเลยครับ.!


      สรุป     


แต่ถ้าท่านนายกต่อต้านและจะไม่เอา
สมเด็จวัดปากน้ำ จริงๆ ก็บอกตรงๆ
มาเลยครับซึ่งลูกศิษย์สมเด็จช่วง
ที่มีอยู่เกือบค่อนประเทศเขาว่า
ฝากผมมาแบบนี้ครับ!

คือขอให้บอกตรงๆ ออกมาเลย
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว โตๆ กันจนจะ
เข้าโลงกันอยู่แล้วตรงๆ ดีกว่า

ขอรัฐบาลอย่าเที่ยวไปยกไปอ้าง
แบบปัญญาอ่อนอยู่เลยครับเพราะว่า
ไปแล้ว ผู้คนเขาไม่ได้กินผัก
กินหญ้ากันสักหน่อย เขาก็กินข้าว
เหมือนกับรัฐมนตรี เหมือนกับ
ท่านนายกนั้นแหละ อย่าคิดว่า
ฉลาดอยู่คนเดียวไปเลย.!

แลกกันแบบนี้เอาไหมท่านนายก
บิ๊กตู่เอาที่ใจเจ้าคุณเบอร์ลิน 
และทีมงามที่เป็นตัวแทนคณะสงฆ์
ทั่วประเทศคิดนะครับ..

" ก็ในเมื่อรัฐบาลไม่มีเกียรติที่จะถวาย
ให้กับคณะสงฆ์ กับพระศาสนาแล้ว
พวกคุณก็ไม่สมควรได้รับเกียรติ
จากคณะสงฆ์เช่นกัน "

แบบนี้ชัดไหมครับผมคิดว่า 
คงน่าจะถึงเวลาที่ชาวพุทธทั้งโลก
จะออกมาสวดมนต์ให้พรนายกได้แล้ว
กระมังครับถึงตรงนี้ผมชักเริ่มจะเห็น
ด้วยกับ เจ้าคุณประสารที่ออกหนังสือ
ถึงพระทั่วประเทศเสียแล้วซิครับ.!

ขอถามย้ำกับคนเป็น
นายกรัฐมนตรีไทยปัจจุบันว่า..

ท่านจะเอากันอย่างนี้ 
จะอยู่กันอย่างนี้จริงๆ ใช่ไหมครับ
ท่านนายกขอให้ท่านช่วยตอบชัดๆ
ให้พระสงฆ์ทั้งประเทศได้ฟังกับหู
สักทีนะครับ นี่ไม่ใช่เป็นการข่มขู่
หรือมาป่วนอะไรนะครับเป็นแค่
พูดเฉยๆ ครับ

โพสต์นี้ผมพูดถึง
นายกรัฐมนตรี พล.อ ประยุทธ์
เยอะหน่อย เพราะดูเหมือนเรื่องนี้
มันใกล้คอหอยท่านมามากแล้ว
ผมก็จะขอสรุปเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรี 
ที่ชื่อบิ๊กตู่คนนี้ให้สังคมได้พิจารณาว่า..

เมื่อสองปีก่อน มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่
ผมเคารพนับถือ และเป็นที่ยอมรับ
ของคนทั่วไป ท่านบอกผมต่อหน้าว่า..


"คุณประยุทธ์ เล่นการเมือง

ยิ่งกว่า นักการเมือง"


เรื่องนี้ จริงหรือไม่จริงคงไม่ใช่
เรื่องของผมนะครับ.!

สรุปเบา ๆ แต่เอาจริง ว่า..
การที่นายกรัฐมนตรี ออกมา
บอกต่อ ปชช.หลังกฤษฎีกาตีความ
ทำนองว่าจะไม่นำชื่อทูลเกล้าฯ 
เสนอขณะที่คดีความยังมีนั้น ?

เจ้าคุณเบอร์ลิน และทีมงาน
ที่เคยมีผลงานอันลือลั่นปฐพี
มาแล้วเป็นเครื่องการันตีก็ไม่
คิดจะไปตำหนิอะไรท่านนายก
หรอกครับ !

เพราะว่าไปแล้วมันก็เป็นสิทธิ์ 
และหน้าที่ของท่าน และก็ถูกแล้ว
ควรแล้วที่ท่านบอกว่า ..

หากคดีความยังไม่จบ 
จะไม่นำทูลเกล้าฯ
เพราะหากนำขึ้นทูลเกล้าฯ 
คนที่จะเป็นคดีก็คงจะเป็นตัว
ท่านนายกเองนะแหละแต่ที่
สังคมพากันสงสัยก็คือ..

ท่านออกมาพูดแบบนี้
เพื่ออะไรครับหรือท่านมีนัยยะ
อะไรที่แอบแฝงอยู่ในใจอีกละครับ

ก่อนจบโพสต์นึ้ ผมก็จะขอบอกชัดๆ
และสื่อตรงไปยังแก๊งค์ชั่วทั้งหลาย
ตั้งแต่หัวหน้าชักใยบงการถึง
"สมเด็จส้มหล่น" 
ยันลูกไล่ทั้งหลายว่า..




" เรื่องคดีความ ไม่ยากครับ
รอให้ได้จังหวะดีๆ เสียก่อน
เดี๋ยวเจ้าคุณเบอร์ลิน และทีมงาน
จัดส่งไปถวายให้ถึงกุฎิจะเอาแบบ
สมน้ำสมเนื้อแหละครับ

จะเอาให้หนักเบาไปตามลำดับ
สมณศักดิ์ไปเลยถึงวันนั้นไอ้ที่  
"เฮสาธุกันลั่นห้อง"
นั้นก็จะได้ "ชวด" กันเสียให้หมด
อยากเล่นไม่เลิกกันดีนัก "

คิดชั่วแม้แต่จะจัดการกับพระเด็กๆ 
อย่างเจ้าคุณเบอร์ลิน ทำไมช่าง
มีจิตใจโหดร้ายไม่สมกับท่าทาง
เคร่งเลยก็ไม่รู้เป็นพระเป็นสงฆ์
บวชจนจะแก่ตายอยู่แล้ว..

"ดันเล่นการเมืองในผ้าเหลืองอีก"

จำคำผมได้ไหมครับว่า..

"มาไงไปงั้นคดีมาก็คดีไป"
หยวนๆ นะครับ หลวงพ่อ.!


โชคดีมีชัยทุกท่านครับ
เจ้าคุณเบอร์ลิน
Berlin,den 12.07.2016


Click > เปิดตัวหลวงป้า ! ทายาทนอกไส้ God mother


บทความแนะนำกรณีธรรมกาย

กรณีธรรมกาย : คำสอนคุณครูไม่ใหญ่
(หลวงพ่อธัมมชโย) เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
เที่ยวไป เขียนไป
Aram Boy
เห็นมา เล่าไป
กรณีธรรมกาย : กาคาบข่าว
กรณีธรรมกาย : วัดพระธรรมกาย UNSEEN
กรณีธรรมกาย : วิชชา ธรรมกาย
กรณีธรรมกาย : White Knight
กรณีธรรมกาย #จูราสสิคสยาม
กรณีธรรมกาย : ความลับระดับ Top secret !
กรณีธรรมกาย : รวมข้อแท้จริง 
ทุกกรณีวัดพระธรรมกาย 
DHAMMAKAYA FACTSHEETS
กรณีธรรมกาย : #โรงละครสยาม
กรณีธรรมกาย : ความจริงวันนี้ วัดพระธรรมกาย 
กรณีธรรมกาย : แถลงการณ์คดีพิเศษ ! 
กรณีธรรมกาย : กรณีเกี่ยวข้องวัดพระธรรรมกาย 
กรณีธรรมกาย : Buddhism under crisis
กรณีธรรมกาย : รักพระพุทธศาสนา
กรณีธรรมกาย : รวมข้อแท้จริงทุกกรณี! 
กรณีธรรมกาย : เบื้องหลังการให้ร้ายวัดพระธรรมกาย


เพราะความลับไม่มีในอากาศ
>Talk--secret.blogspot.com

แก๊งป่วน "วงแตก" กฤษฎีกาเคาะมติตั้งสังฆราชถูกต้อง :เจ้าคุณเบอร์ลิน แก๊งป่วน "วงแตก" กฤษฎีกาเคาะมติตั้งสังฆราชถูกต้อง :เจ้าคุณเบอร์ลิน Reviewed by สารธรรม on 20:22 Rating: 5

2 ความคิดเห็น:

  1. รอดูกันต่อไป ว่า....
    ท่านนายกฯ จะเอายังไง?
    จะเลือกทางเดินไปสวรรค์ หรือทางตรงกันข้าม

    ตอบลบ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.